เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะคิดและนึกภาพว่า สีลมในปัจจุบันช่างแตกต่างจากอดีตมาก เพราะเราแทบไม่เห็นพื้นที่เกษตรกรรมหลงเหลือ และการเลี้ยงสัตว์ทำสวนรวมถึงกิจกรรมแบบเดิมของผู้คนต่างก็หายไป เปลี่ยนภาพลักษณ์กลายเป็นแหล่งศูนย์กลางทางคมนาคมและธุรกิจชั้นนำแทน แต่หากเรามองให้ดี เราจะเห็นว่าที่จริงแล้วกลิ่นอายเหล่านี้ไม่ได้หายไปเลย แต่กลับสะท้อนมาในรูปแบบของการใช้ชีวิตของผู้คนบนพื้นที่ที่พัฒนาขึ้น เนื่องจากสีลมในอดีตคือแหล่งที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรม นี่คือหนึ่งแหล่งที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติ การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจของย่านนี้จึงมีมาตั้งแต่สมัยอดีต จนทำให้ในปัจจุบัน “สีลม” คือหนึ่งในทางเลือกของการลงทุนทางเศรษฐกิจจากบริษัทต่างชาติไปจนถึงบริษัทขนาดใหญ่ของไทยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ที่ดินเดิมของพระยาราชนุกูลและนายคงเหลียน สีบุญเรือง ซึ่งอยู่ปากซอยคอนแวนต์ในปัจจุบัน ได้ปรับเปลี่ยนจากที่พักอาศัยให้กลายเป็นอาคารสำนักงานนำเข้า และส่งออกสินค้าต่างประเทศ จนประสบความสำเร็จมาถึงปัจจุบันในชื่ออาคารว่า “อาคารสีบุญเรือง” แต่คงไม่ใช่แค่ความหลากหลายทางวัฒนธรรมเท่านั้น ความพัฒนาอย่างต่อเนื่องของที่ดินย่านนี้ ก็เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ความเจริญในทุกด้านเช่นกัน ทั้งการคมนาคมที่รองรับการโดยสารสาธารณะทุกเส้นทางทั้ง BTS, MRT รถด่วนพิเศษ BRT และยังมีท่าเรือเชื่อมต่อสู่แม่น้ำเจ้าพระยา
และยังไม่รวมกับถนนหนทางที่สามารถลัดเลาะไปยังถนนเส้นอื่น เช่นถนนเจริญกรุง ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ถนนคอนแวนต์ ไปจนถนนพระรามที่ 4 ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังศูนย์กลางของเมืองอย่างสยามได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีครบทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็น อาคารสำนักงานชั้นนำ โรงแรม ห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา โรงพยาบาล สถาบันบริการทางการเงิน และพื้นที่สาธารณะต่างๆ จนทำให้ผู้คนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเล็งเห็นโอกาสในการลงทุนกับทำเลนี้มากมายและเกิดเป็นโครงการระดับไฮเอนด์เป็นจำนวนมาก และในทุกความครบครันเช่นนี้ของสีลม ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าต้องขอบคุณกลิ่นอายของอดีต ที่หล่อหลอมให้สีลมยังคงเป็นพื้นที่ที่มีชีวิต และสร้างความเปลี่ยนแปลงจากรุ่นสู่รุ่น จนกลายเป็นพื้นที่ที่มีคุณค่าในปัจจุบัน