ถ้าเราพูดถึง “ย่านสีลม” ภาพที่ทุกคนมองเห็นคงไม่ต่างกัน เพราะ ”สีลม” คือภาพของชุมชนในกรุงเทพมหานครที่ไม่เคยไร้แสงไฟ ไม่ว่าจะเป็นกลางวันไปจนถึงกลางคืน แต่ในความไม่เคยไร้แสงไฟของที่แห่งนี้ แท้จริงแล้วคือเรื่องราวของการหมุนเวียนวิถีชีวิตของผู้คนที่ไม่รู้จบ ถ้าเราลองมองภาพของสีลมในหนึ่งวัน เราจะเห็นว่า ตลอดเวลา ยี่สิบสี่ชั่วโมงของที่นี่ล้วนเต็มไปด้วยเรื่องราวที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา เหมือนกับว่าที่นี่มีชีวิต และชีวิตเหล่านั้นก็ได้เป็นภาพสะท้อนของการเชื่อมต่อกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
คือภาพสะท้อนของเสน่ห์แห่งวัฒนธรรมและวิถีความเป็นอยู่
ของผู้คนที่สวยงาม
แสงแดดอ่อนในตอนเช้าหมายถึงการเริ่มใหม่ .. ภาพของสีลมในเวลานี้ ล้วนเต็มไปด้วยผู้คนหลากหลาย ทั้งต่างวัย เชื้อชาติและอาชีพ แต่ทุกชีวิต ล้วนกำลังเริ่มต้นวันใหม่ด้วยวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน เรามองเห็นภาพ ผู้คนมีอายุกับร้านอาหารดั้งเดิมที่เปิดมานานกว่าหลายสิบปี ผู้คนรุ่นใหม่ วัยทำงานกับภาพของวัฒนธรรมของการพบปะพูดคุยดื่มกาแฟ ไปจนถึง ภาพของครอบครัวที่กำลังส่งลูกหลานไปโรงเรียน ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นภาพ ที่กำลังสะท้อน “การเริ่มวิถีชีวิตในหนึ่งวัน”
คือภาพสะท้อนของความไม่หยุดนิ่งที่เคลื่อนไหวอยู่เสมอ
แสงแดดเริ่มสดใสขึ้นสื่อถึงพลังงานของผู้คนที่เริ่มกระตือรือร้นขึ้น .. ภาพของสีลมในช่วงนี้จึงเต็มไปด้วยผู้คนวัยทำงานในสังคมเมืองที่ ต่างมีความมุ่งมั่น มีการแชร์สถานที่ทำงานร่วมกันซึ่งเป็นเทรนด์ของ สังคมปัจจุบันมีการติดต่อสื่อสาร พบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ของผู้คนในสถานที่สาธารณะต่างๆ ทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ ไปจนถึง คอมมูนิตี้มอลล์มากมาย นี่คือภาพที่เราปฏิเสธไม่ได้ว่าสีลมช่วงนี้คือ ช่วงที่สดใสและเต็มไปด้วยพลังงานของการเคลื่อนไหว ที่สร้างสรรค์ที่สุดช่วงหนึ่ง
คือภาพสะท้อนของการคมนาคมที่ตอบสนองทุกความต้องการ
แสงแดดเริ่มลับตาลง เหมือนเป็นช่วงเวลาที่ส่งสัญญาณว่าในหนึ่งวันของเรา กำลังจะหมดลง สำหรับชีวิตมนุษย์คงเป็นเช่นนั้น แต่สำหรับสีลมกลับเป็น สัญญาณของเวลาที่จะต้องเริ่มต้นรองรับทุกการเดินทางของผู้คนที่มีมากขึ้น เราจะมองเห็นภาพการคมนาคมที่หลากหลายและตอบสนองทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ รถโดยสารสาธรณะ รถไฟฟ้า หรือแม้การสัญจรบนทางเท้า นี่จึงเป็นอีกหนึ่งภาพที่ทำให้เรารู้สึกได้ว่า สีลม พร้อมตอบสนองวิถีชีวิต ผู้คนในทุกด้านจริงๆ
คือภาพสะท้อนของแสงไฟที่เติมเต็มแสงธรรมชาติ
ที่ดับลงอย่างสว่างสดใส
แม้แสงแดดจะลับไปแล้ว แต่ “สีลม” ก็ปลุกทุกชีวิตให้ตื่นขึ้นอีกครั้ง ด้วยแสงไฟทั้งเมือง นี่คือการส่งสัญญาณที่หมายถึงการต้อนรับ ทุกชีวิตให้กลับมาสดใสอีกครั้งแม้เวลาจะมืดลง เราเห็นภาพ ร้านอาหาร ร้านค้า อาคารต่างๆที่พร้อมเปิดไฟสีสันสดใสให้ เมืองนี้ไม่มืดมิด เพื่อมอบเวลาแห่งการพักผ่อน สังสรรค์และ ความบันเทิงให้กับผู้คนอีกครั้ง และทุกแสงไฟจะไม่ดับจนกว่า แสงเช้าของธรรมชาติจะกลับมาอีกครั้งในตอนเช้าของอีกวัน
และเวลาของสีลมจะหมุนเวียนอยู่เช่นนี้ไม่หลับใหล เพราะความต้องการของผู้คนมีไม่หยุดนิ่ง สีลมจึงเป็นสถานที่ที่เกิดขึ้นจากความต้องการของผู้คน เพื่อตอบสนอง ความต้องการของผู้คน และอยู่ด้วยความต้องการของผู้คนในทุกเวลาและทุกมิติของการใช้ชีวิต เราจึงสามารถพูดได้ว่า